บีเฟรช เป็นวัตถุดูดเอทิลีน กำจัดก๊าซเอทิลีนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่พืชสร้างตามธรรมชาติที่เร่งการหายใจ การคายน้ำ การสุก และการร่วงโรยของผักผลไม้และดอกไม้สด การกำจัดเอทิลีนเป็นเทคโนโลยีการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวที่จะช่วยยืดอายุผลิตผลสด ลดการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา และโรคหลังการเก็บเกี่ยวได้ดี บีเฟรชกำจัดเอทิลีนโดยปฏิกิริยาออกซิเดชั่น จึงมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้ตัวดูดซับเอทิลีน (เช่น ดินเคลย์ ซีโอไลต์ หรือถ่านกำมันต์) ทั่วไป

บีเฟรช ยืดอายุสินค้าได้อย่างไร? ทำไมต้องกำจัดเอทิลีนในบรรจุภัณฑ์?

  • บีเฟรช ชะลอการเร่งการหายใจ (การใช้อาหารสะสม) การคายน้ำ (การใช้น้ำสะสม) การสุก (การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา) และการร่วงโรย (การตาย) ของผักผลไม้และดอกไม้สด จึงรักษาคุณภาพความสดใหม่ได้ ยืดอายุผลิตผลและดอกไม้สดได้นานขึ้น
  • บีเฟรช ชะลอการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาทางเคมี ในผักผลไม้ได้ เช่น ลดการสลายตัวของคลอโรฟิลล์และคลอโรพลาสต์ ลดการสลายตัวของแป้งและคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ เป็นน้ำตาล ลดการสลายตัวของวิตามินซี ลดการเปลี่ยนแปลงรูปของสารประกอบเพคติน ลดการเสื่อมสภาพของเยื่อหุ้มและการอ่อนตัวของผนังเซลล์ทำให้นิ่ม ไวต่อการเสื่อมคุณภาพจากแรงทางกายภาพในระหว่างจัดเก็บหรือขนส่ง
  • บีเฟรช ชะลอการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาทางกายภาพ ในผักผลไม้ได้ เช่น ขนาด น้ำหนัก และความแน่นเนื้อ (firmness) ลดการสูญเสียความเต่งตึงของเซลล์ (cell turgor) ได้
  • บีเฟรช ชะลอการเกิดโรคหลังการเก็บเกี่ยวได้
  • บีเฟรช ชะลอการสุก จึงช่วยลดการเสื่อมคุณภาพจากแรงทางกายภาพที่เกิดระหว่างการจัดเก็บและขนส่งได้ เช่น การกระแทกทำให้ผลไม้ช้ำและเร่งปฏิกิริยาการเกิดสีน้ำตาลที่เกี่ยวข้องกับเอนไซม์ เป็นต้น
  • บีเฟรช ช่วยรักษาความสดใหม่ของผักผลไม้ที่ไวต่อเอทิลีนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องวางไว้รวมกันในกล่อง หรือห้องเย็นรวม แม้ผักผลไม้นั้นจะไม่ได้สร้างเอทิลีนเอง แต่หากบางผลเริ่มสร้างเอทิลีน ก็จะส่งผลเร่งให้ผักผลไม้ในบริเวณนั้นสร้างเอทิลีนมากขึ้น ส่งผลเสียโดยรวมต่อผักผลไม้ทั้งกล่องหรือทั้งห้องเย็นได้

ข้อดีจากการใช้บีเฟรช

  • ช่วยรักษาความสดใหม่ คุณภาพ และอายุการเก็บของสินค้าได้
  • งดเว้นการใช้สารเคมียับยั้งการสุกได้ เพื่อผู้บริโภคที่ใส่ใจกับสุขภาพ
  • สามารถทำตลาดได้กว้างไกลมากขึ้น สร้างโอกาสและขยายช่องทางการขายได้มากขึ้น
  • ช่วยลดการตีกลับของสินค้า และเสริมสร้างภาพลักษณ์อันดีให้กับสินค้า
  • ช่วยทำให้การวางแผนการผลิต การควบคุมสต็อกสินค้าคงคลัง (inventory control) ง่ายขึ้น
  • ใช้เก็บรักษาวัตถุดิบที่มีฤดูกาล ให้สามารถผลิตและจัดจำหน่ายได้ทั้งปี
  • ช่วยลดการสูญเสียและขยะอาหารได้ (food loss and waste) ได้

ข้อแนะนำการใช้

  • ใช้บีเฟรชได้กับผักผลไม้ทั้งประเภท Climacteric หรือ Non-Climacteric ที่ไวต่อเอทิลีน (แม้ผักผลไม้นั้นจะไม่ได้สร้างเอทิลีนเอง) โดยเฉพาะการจัดเก็บในกล่องรวม หรือในห้องเย็นรวม
  • ใช้บีเฟรชได้กับผักผลไม้ทั้งแบบผลสด และแบบตัดแต่งพร้อมรับประทาน
  • ใช้บีเฟรชร่วมกับ Modified Atmosphere Packaging (MAP) และเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวอื่นๆ ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยืดอายุความสดใหม่
  • กรุณาติดต่อทีมพนักงานขายด้านเทคนิคเพื่อให้คำปรึกษาและข้อมูลเทคนิคในการใช้บีเฟรช

เอกสารอ้างอิง:
Theeranun Janjarasskul & Panuwat Suppakul (2018). Active and intelligent packaging: The indication of quality and safety, Critical Reviews in Food Science and Nutrition, 58:5, 808-831, DOI: 10.1080/10408398.2016.1225278